วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เอาใจช่วยนะ

สะพัด"ไอ้กี้ร์"ทิ้งไพร่ พยายามเผ่นเอาตัวรอด!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 19 พฤษภาคม 2553 11:58 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาด ใหญ่ขึ้น
ภาพวันที่ไอ้กี้ร์พยายามโรยตัวหนี การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ดูสิคล้ายตัวตัวอะไร


ภาพเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกโรงแรม รอยัล คลิฟ พัทยา

เกิดข่าวสะพัด "อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" พยายามพรางตัวหลบหนีไปจากแยกราชประสงค์ ปล่อยให้แกนนำคนอื่นและมวลชนเผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง โดยมุ่งหน้าไปทางประตูน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าพรางตัวหลายครั้ง แต่ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า สามารถหลบหนีรอดไปได้หรือไม่ หรือยังคงซุ่มเงียบอยู่ที่หลังเวที

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายหลังกำลังทหาร เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยเริ่มเข้ากดดันขอพื้นที่คืนจากแยกศาลาแดงและสามารถทำได้สำเร็จไปนั้น ทำให้บริเวณหลังเวทีปราศรัย อันเป็นที่พักของบรรดากลุ่มแกนนำคนสำคัญ ต่างปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. บรรดาแกนนำยังคงอยู่ในพื้นที่กับครบ รวมทั้งนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ก็ยังปรากฏตัวให้เห็น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. มีรายงานว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง พยายามที่จะหลบหนีออกจากพื้นที่การชุมนุม โดยมุ่งหน้าไปทางบริเวณถนนราชปรารภ ผ่านไปทางประตูน้ำ และได้เปลี่ยนชุดแต่งตัวเพื่ออำพรางตัวในรถไปตลอดทาง ในขณะเดียวกัน ทางทหารก็ได้รับทราบกระแสข่าวนี้แล้ว และกำลังสกัดจับนายอริสมันต์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายคนสำคัญอยู่ แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันว่า นายอริสมันต์ได้หลบหนีออกไปนอกพื้นที่ หรือยังคงอยู่ในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ไม่มีผู้สื่อข่าวประจำอยู่ เพราะตำรวจได้สั่งให้สื่อมวลชนทั้งหมดเข้าไปหลบอยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่ง ชาติตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว

สำหรับนายอริสมันต์ ถือเป็นแกนนำฮาร์ตคอร์คนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง ตั่งแต่การชุมนุมเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา โดยเป็นผูนำกลุ่มมวลชน บุกเข้าไปภายในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา สถานที่ประชุมอาเซียนซัมมิตที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดในครั้งนั้น จนทำรัฐบาลต้องออกมาประกาศยกเลิกการประชุม พร้อมกับประกาศพรก.ฉุกเฉินเพื่อรักษาความสงบในเมืองพัทยา และจ.ชลบุรี

ต่อมา ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ นายอริสมัตน์ ยังยกพวกบุกรัฐสภา เข้าไปยึดอาวุธปืน และทำรุมทำร้ายสารวัตรทหารจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาตำรวจพยายามเข้าจับกุมบรรดาแกนนำ ที่ไปหลบนอนในโรงแรมเอสซีปาร์ค แต่นายอริสมันต์ ได้ปีนหน้าต่าง ใช้เชือกโรยตัวและพามวลชนที่ไปกดดันตำรวจหลบหนีกลับเวทีแยกราชประสงค์ไปได้

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ที่ติดตามข่าวสารการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ต่างแสดงทัศนะไปในทิศทางเดียวกันเป็นส่วนมากว่า ในบรรดากลุ่มแกนนำทั้งหมดนั้น มีเพียงนายอริสมันต์เพียงคนเดียวที่น่าหมั่นไส้มากที่สุดด้วย

ทางด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ทางทีมสืบสวนของดีเอสไอกำลังตรวจสอบข่าวและการเคลื่อนไหวของ นายอริสมันต์ อยู่ตลอดเวลาและมีการประสานกับทางตำรวจที่ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าได้เบาะแสที่แน่นอนจะสามารถเข้าจับกุมมาดำเนินคดีได้

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ได้มีคำสั่งถอนกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษดีเอสไอ ที่ออกปฏิบัติภารกิจแฝงตัวในพื้นที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงให้กลับมาดูแล สำนักงานดีเอสไอบนถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำรอย กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งถูกคนร้ายบุกเข้าไปลอบวางเพลิงเผาอาคาร โดยมีคำสั่งห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าออกสำนักงาน

ทั้งนี้ หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือมีพฤติการณ์ผิดปกติ เจ้าหน้าที่จะใช้อาวุธเข้าดำเนินการทันที อย่างไรก็ตามเรื่องการดูแลความปลอดภัยได้มีคำสั่งให้ข้าราชการและเจ้า หน้าที่ทุกคน ซึ่งเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา

นายธาริต กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นการออกประกาศคุมธุรกรรมทางการเงินบุคคลและนิติบุคคล กว่า 106 บัญชีรายชื่อ และวานนี้(18 พ.คง) เพิ่มอีก 37 รายชื่อนั้นจะดำเนินการแบบเดียวกันที่ออกรายชื่อครั้งแรก คือให้มารายงานธุรกรรมทางการเงินตั้งแต่เดือน 1 ก.ย. 52 - 17 ก.ย. 53 โดยกำหนดให้ส่งรายงานในวัน ที่ 20 พ.ค. 53 เหมือนกับชุดแรก ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกันหลายหน่วยงาน ถ้าผู้ที่มีรายชื่อไม่มารายงานจะมีความผิด ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำและปรับ ตามมาตรา 28 แห่งพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น