วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทีเคพาร์ค ยะลา

แจ้งเกิด “ทีเค พาร์ค ยะลา” แหล่งเรียนรู้เยาวชนชาวใต้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2553 09:09 น.

โดย...ชยวรรศ มานะศิริ

เมื่อเอ่ยถึงอุทยานการเรียนรู้ หรือ ทีเคพาร์ค ภาพของคนส่วนใหญ่คงมองไปยังเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เพิ่งได้รับผลกระทบไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมี ทีเค พาร์ค อีกแห่งในประเทศไทยที่เติบโตอย่างมั่นคง และได้รับความร่วมมือจากคนในท้องถิ่นจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเข้าสู่ปี ที่ 3 นั่นคือ “ทีเค พาร์ค ยะลา”

นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ผู้มีส่วนสำคัญในการทำให้อุทยานการเรียนรู้ท้องถิ่นแห่งชายแดนภาคใต้เกิด ขึ้นได้จริง เล่าว่า อุทยานการเรียนรู้ยะลาเป็นหนึ่งในโครงการที่จัดขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเป็นอุทยานการเรียนรู้ส่วนภูมิภาคที่สามารถเปิดให้บริการได้เป็นแห่งแรก ของประเทศ

“ความสำเร็จที่เกิดขึ้น มาจากการมองความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ไม่ได้มองแค่คณะผู้บริหารทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงความต้องการของคนใน พื้นที่ เช่น วิธีการจัดการหนังสือ ซึ่งบางครั้งเป็นความต้องการของคนซื้อ แต่ไม่ใช่ความต้องการของคนอ่าน เราจึงสำรวจข้อมูล ว่าคนในพื้นที่ต้องการหนังสืออะไร และดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เช่น ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้ให้ชุมชนดำเนินการบริหาร ใช้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมตั้งแต่จิตแพทย์เด็ก เอ็นจีโอ สภาเยาวชน ตัวแทนผู้ประกอบการ และตัวแทนสถาบันการศึกษา เพื่อให้ชุมชนเกิดความรู้สึกว่าทีเคพาร์คแห่งนี้เป็นสมบัติของชาวยะลาจริงๆ”

นายกเทศมนตรีนครยะลา บอกต่อว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า เด็กมีความคิดอ่านที่เปิดกว้างมากขึ้น และเป็นรากฐานของประชาธิปไตย จากการที่คนจำนวนมากมีความแตกต่าง ทั้งวัย ทั้งศาสนา แต่ทุกคนก็มาใช้บริการและทำกิจกรรมร่วมกัน เข้าใจยอมรับ และอยู่ร่วมบนความแตกต่างในท้องถิ่นได้

ด้าน ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ผู้อำนวยการสำนักอุทยานการเรียนรู้ (ทีเค พาร์ค) กล่าวเสริมว่า นอกจากความรอบรู้ ในบริบทท้องถิ่นตนเองแล้ว ยะลายังมีความพร้อมของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ทุกระดับ โดยเฉพาะการให้ชุมชนมีส่วนร่วมการรักถิ่นฐาน จึงเกิดกระแสความเป็นเจ้าของ

“สิ่งสำคัญที่ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง คือ การนำภูมิปัญญาประจำท้องถิ่นมาเผยแพร่ ทำร่วมกับเยาวชน เช่น เรื่องกล้วยหิน นกกรงหัวจุก ไก่เบตง ที่นำมาเป็นข้อมูลเก็บในรูปแบบวิดีทัศน์ รวมถึงกิจกรรมที่เรียกว่าผู้เฒ่าเล่าขาน ลูกหลานถ่ายทอด ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากเยาวชนในพื้นที่จำนวนมาก”

ดร.ทัศนัย กล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นว่า ทีเค พาร์คยังคงมีกิจกรรมที่เจาะกลุ่มเยาวชนวัยรุ่นครอบคลุมเป้าหมายตั้งแต่ 15-25 ปี มีการจัดโครงการทีเค แจ้งเกิด พัฒนาอบรมเยาวชนผ่านกิจกรรมต่างๆที่วัยรุ่นชื่นชอบ เช่น ดนตรี งานเขียน หนังสั้น คอมพิวเตอร์ กราฟฟิกแอนิเมชัน การตลาด ฯลฯ มีการจัดประกวดเพื่อเป็นแรงบันดาลใจจนถึงขั้นไปประกอบเป็นอาชีพได้ เพราะเป็นการเรียนรู้จากคนที่เป็นมืออาชีพจริง

“นอกจากนี้ ยังเน้นโครงการจิตสาธารณะ หรือจิตอาสา เพราะวัยนี้เป็นวัยที่พร้อมเต็มที่ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก เมื่อได้ทำตามความต้องการของตนเองจริง โดยกิจกรรมอะไรที่ทางกรุงเทพฯ จัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอบรม เยาวชนคนรักงานเขียน การทำหนังสั้น หากมีความเหมาะกับบริบทของยะลา ก็จะจัดขึ้นเหมือนกันด้วย” ผู้อำนวยการ ทีเค พาร์ค ทิ้งท้าย

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วาฬ

รู้จัก “วาฬ”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2553 02:27 น.
วาฬเป็นสัตว์เลือดอุ่น เลี้ยงลูกด้วยนม และต้องโผล่จากน้ำขึ้นมาหายใจเป็นระยะๆ ในมหาสมุทรมีวาฬอยู่หลากหลายชนิด โดยบีบีซีนิวส์ได้รวบรวมวาฬขนาดใหญ่ไว้ ดังนี้
วาฬสีน้ำเงิน (ภาพประกอบทั้งหมดจากบีบีซีนิวส์)
1.วาฬสีน้ำเงิน (Blue Whale)
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่สุดและอาจจะเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ที่สุดที่อาศัยอยู่บนโลก แม้กระทั่งไดโนเสาร์ตัวโตที่สุดยังตัวเล็กกว่าวาฬสีน้ำเงิน ทั้งนี้เคยพบวาฬชนิดนี้ที่มีขนาดยาวถึง 33 เมตร และหนัก 190 ตัน แต่โดยปกติมีขนาดเฉลี่ย 25-26.2 เมตร และหนัก 100-120 ตัน

วาฬสีน้ำเงินอยู่สถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) โดยในช่วงศตวรรษที่ 20 ถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์ และได้เริ่มปกป้องสัตว์ใหญ่แห่งท้องทะเลในช่วงกลางทศวรรษ 1960 และเร็วๆ นี้ประมาณว่าเหลืออยู่ในซีกโลกใต้ประมาณ 2,300 ตัว และยังมีหลักฐานว่าประชากรของวาฬขนาดใหญ่นี้เพิ่มขึ้นปีละ 7% แต่การประมาณประชากรในส่วนอื่นๆ ของโลกยังมีตัวเลขไม่ชัดเจน
วาฬฟิน
2.วาฬฟิน (Fin whale)
เป็นวาฬขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง มีขนาดเฉลี่ย 19-22.3 เมตร หนัก 45-75 ตัน และทราบว่ามีวาฬลูกผสมระหว่างวาฬฟินและวาฬสีน้ำเงินด้วย สถานภาพของวาฬชนิดนี้ใกล้สูญพันธุ์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ยังไม่มีตัวเลขประชากรที่แน่ชัด แต่มีสัญญาณประชากรเพิ่มขึ้นในซีกโลกใต้นับแต่เริ่มปกป้องในปี 1976 แต่ชนเผ่าพื้นเมืองของกรีนแลนด์จะล่าวาฬฟินปีละ 19 ตัว และ 2-3 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นและไอซ์แลนด์เริ่มล่าวาฬชนิดนี้บ้างแล้ว
วาฬไรท์
3.วาฬไรท์ (Right whale)
เป็นวาฬใหญ่เป็นอันดับ 3 โดยมีขนาดเฉลี่ย 13.5-18 เมตร และหนัก 40-80 ตัน และเนื่องจากวาฬไรท์เคลื่อนที่ช้า ว่ายน้ำใกล้ชายฝั่ง และลอยน้ำเมื่อถูกฆ่า จึงเป็นที่มาของชื่อซึ่งหมายถึงเป็นที่ “หมายปอง” ในการล่าของมนุษย์ สถานภาพในแอตแลนติกเหนือและแปซิฟิกเหนือใกล้สูญพันธุ์ โดยมีประชากรประมาณ 200-400 ตัว แต่ทางซีกโลกใต้ไม่อยู่ในข่ายถูกคุกคาม โดยมีประชากรประมาณ 8,000-10,000 ตัว
วาฬเซ
4.วาฬเซ (Sei whale)
เป็นวาฬที่ว่ายน้ำเร็วและในช่วงปี 1960 ถูกล่าเป็นอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับวาฬสีน้ำเงิน วาฬฟินและวาฬหลังค่อม โดยญี่ปุ่นได้รับอนุญาตให้ล่าวาฬชนิดนี้เพื่อการวิจัยได้ 100 ตัว ทั้งนี้ไม่มีตัวเลขจำนวนประชากรที่แน่ชัด แต่ตกอยู่สถานภาพใกล้สูญพันธุ์ มีขนาดเฉลี่ย 13.6-16 เมตร หนัก 20-25 ตัน
วาฬหัวทุย
5.วาฬหัวทุย (Sperm whale)
เป็นวาฬขนาดใหญ่ชนิดเดียวที่มีฟัน มีขนาด 11-15 เมตร หนัก 20-45 ตัน ในอดีตน้ำมันของวาฬชนิดนี้ถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงจุดตะเกียงให้เมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ และยุโรป และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกล่ามากถึงปีละ 30,000 ตัว จนกระทั่งในปี 1982 จึงได้รับการคุ้มครอง ปัจจุบันตกอยู่ในสถานภาพมีแนวโน้มเสี่ยงสูญพันธุ์ (Vulnerable)
วาฬหัวบาตร
6.วาฬหัวบาตร (Bowhead whale)
เป็นวาฬที่อยู่ในทะเลขั้วโลกเหนือ และมีหัวขนาดใหญ่และมีกะโหลกที่แข็งแรงพอที่จะทำให้แผ่นน้ำแข็งในทะเลแตกได้ มีขนาดใหญ่ 14-15 เมตร หนัก 50-60 ตัน ประมาณว่ามีวาฬชนิดนี้อยู่ 17,000 ตัว และไม่อยู่ในสถานภาพใกล้ถูกคุกคาม โดยคณะกรรมการควบคุมการล่าวาฬระหว่างประเทศ (International Whaling Commission) หรือไอดับเบิลยูซี (IWC) อนุญาตให้มีการล่าวาฬชนิดนี้ในอะแลสกา ชูตอตตา (Chukotka) และกรีนแลนด์ในแต่ละรัฐได้ไม่เกินปีละ 69 ตัว
วาฬบรูด้า
7.วาฬบรูดา (Bryde's whale)
เป็นวาฬที่พบทะเลเขตร้อน มีขนาด 13.7-14.5 เมตร หนัก 16-18.5 ตัน มีรูปร่างคล้ายวาฬเซจนเป็นที่สับสน ทั้งนี้ไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับประมาณจำนวนวาฬชนิดนี้ แต่เชื่อว่ามีมากถึง 25,000 ตัวในแปซิฟิกเหนือฝั่งตะวันตก โดยญี่ปุ่นจะล่าวาฬชนิดนี้เพื่องานวิจัยปีละไม่เกิน 50 ตัว
วาฬหลังค่อม
8.วาฬหลังค่อม (Humpback whale)
เป็นวาฬที่ไม่อยู่สถานภาพใกล้ถูกคุกคาม คาดว่าอาศัยอยู่ในซีกโลกใต้ แอตแลนติกเหนือและแปซิฟิกเหนือราว 73,000 ตัว มีขนาด 12-14 เมตร หนัก 25-30 ตัน
วาฬสีเทา
9.วาฬสีเทา (Gray whale)
เป็นวาฬที่แยกเป็น 2 กลุ่มประชากรในมหาสมุทรแปซิฟิก คือกลุ่มประชากรในแปซิฟิกเหนือฝั่งตะวันตก ซึ่งมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ โดยมีจำนวนเพียง 130 ตัว ส่วนกลุ่มประชากรในแปซิฟิกตะวันออกมีจำนวนมากถึง 20,000 ตัว และวาฬชนิดนี้เป็นรู้จักในด้านการอพยพเพื่อหนีหนาวจากทะเลเบอริง (Bering) ในมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลชุกกี (Chukchi) ในมหาสมุทรอาร์กติกไปยังเขตน้ำอุ่นในเม็กซิโก เพื่อผสมพันธุ์และออกลูก คิดเป็นระยะทางไป-กลับไกลถึง 20,000 กิโลเมตร
วาฬมิงก์
10.วาฬมิงก์ (Minke whale)
เป็นวาฬที่ถูกล่ามากที่สุดในโลก โดยญี่ปุ่นล่าวาฬชนิดนี้เพื่อวิจัยมากถึงปีละ 950 ตัว ส่วนนอร์เวย์ได้รับโควตาให้ล่าเพื่อการค้าได้ปีละ 1,000 ตัว ส่วนเรือประมงของไอซ์แลนด์จับวาฬมิงก์ปีละ 50 ตัว ส่วนชาวอินูอิตของกรีนแลนด์ล่าวาฬมิงก์เพื่อยังชีพได้มากถึง 212 ตัว วาฬขนาดเล็กที่สุดนี้ยังไม่อยู่ในสถานภาพใกล้ถูกคุกคาม โดยคาดว่ามีจำนวนประชากรในซีกโลกใต้มากถึง 450,000 ตัว และในแอตแลนติกเหนือมีจำนวนมากกว่า 145,000 ตัว ส่วนแปซฟิกเหนือคาดว่ามีอยู่ 25,000 ตัว