ถอดรหัสธรรม "หลวงพ่อทองคำ" วัดไตรมิตร พระพุทธรูปทองคำใหญ่ที่สุดในโลก |
|
ข้อเท็จจริงจำนวนหนึ่งจาก อาจารย์ สุรศักดิ์ เจริญวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญในด้านศิลปะไทย นั้นกล่าวว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมายที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาดู "โลหะรูปมนุษย์" โลหะรูปมนุษย์ ในความหมายของพวกเขา(ชาวต่างชาติ)คือพระพุทธรูปนั่นเอง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่านอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ที่ได้รับความสนใจและ พุทธศิลป์ในบ้านเรานั้นกลับเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะฝรั่งเขาบอกกันว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองไทยที่ไม่เหมือนใคร พระพุทธรูปในเมืองไทยนั้นมีการสร้างมาช้านาน หลายยุคหลายสมัย และมีอยู่มากมาย แทบทุกอณูประเทศ สำหรับ"พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อทองคำ" ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นั้นเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์สวยงามที่ได้รับการกล่าวขานถึงไม่น้อยเลย | ||||
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติของชาวไทยที่พบเห็นพระพุทธ รูปสวยงามอยู่เป็นประจำ แต่สำหรับหลวงพ่อทองคำนั้นมีสิ่งที่น่าค้นหามากกว่าแค่ความงามภายนอก จนทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธรูปกลุ่มหนึ่งมาตั้งวง เสวนาวิชาการ "หลวงพ่อทองคำ...ถอดรหัสพุทธศิลป์สู่พุทธธรรมขึ้น" เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของหลวงพ่อทองคำที่ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นน่าสนใจ ทั้งเรื่องแรงศรัทธา ความชาญฉลาดทางสถาปัตยกรรม และเรื่องของปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นต่างๆ ก่อนจะมาเป็นหลวงพ่อทองคำอย่างในทุกวันนี้ สังคมเจริญ ศิลปกรรมรุ่งเรือง ถ้าจะกล่าวถึงที่มาของหลวงพ่อทองคำนี้ อาจต้องท้าวความกลับไปยังช่วงสมัยสุโขทัย ซึ่งอาจารย์ สุรศักดิ์ ได้กล่าวถึงที่มาของหลวงพ่อทองคำไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า หลวงพ่อทองคำ มีความเป็นไปได้อย่างมากที่น่าจะสร้างขึ้นในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง ถ้าเปรียบเทียบกับลักษณะของพระพุทธรูปในสมัยนั้น ในสมัยก่อนการจะสร้างพระพุทธรูปทองคำล้วนนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะว่าหลวงพ่อทองคำนั้นสร้างด้วยทองคำบริสุทธิ์ที่เรียกกันว่า "ทองเนื้อเจ็ด น้ำสองขา" ตามมาตราทองคำของไทยโบราณ | ||||
นอกจากนี้อาจารย์สุรศักดิ์ ยังสะท้อนให้เห็นความสำคัญของพุทธลักษณะของหลวงพ่อทองคำรวมถึงพระพุทธรูป อื่นๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคเดียวกันว่า การสร้างพระพุทธรูปยุคสุโขทัยนั้นจะสร้างตามลักษณะของมนุษย์ทุกประการ แต่จะไม่เหมือนกับรูปปั้นที่โชว์กายภาพของร่างกายตามต่างประเทศ เพราะมนุษย์ที่ยังคงลักษณะทางกายภาพไว้ครบถ้วนนั้นแสดงให้เห็นว่ายังคงความ เป็นโลกียะ คือยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส แต่พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นนั้นมีความสวยงาม ราบเรียบ แต่ไม่คงไว้ซึ่งลักษณะทางกายภาพเช่นกล้ามเนื้อ เพราะเป็นตัวแทนของมหาบุรุษซึ่งหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงหรือ โลกุตระ | ||||
จากพระทองคำ สู่พระปูนปั้น กล่าวกันว่าในยุคสมัยหนึ่งได้มีการพอกปูนทับ หลวงพ่อทองคำ และทำการลงลักปิดทองซ้ำอีกชั้นจนดูเหมือนพระพุทธรูปธรรมดาทั่วไป สาเหตุในครั้งนี้สันนิษฐานไว้ 2 สาเหตุหลักๆ ก็คือ ชาวกรุงสุโขทัยเองนั้นอาจเป็นผู้ที่พอกปูนอำพรางค์ทองคำไว้ เพราะช่วงหลังจากที่กรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง ได้มีสงครามบ่อยครั้งขึ้น และถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยารุกรานเมื่อราวปี พุทธศตวรรษที่ 20 ถ้าเป็นจริงตามข้อสันนิษฐานนี้ หลวงพ่อทองคำในรูปของพระปูนปั้นได้ประดิษฐานอยู่ที่กรุงรัตนโกสินทร์มาอย่างยาวนาน | ||||
สำหรับข้อสันนิษฐานทั้งสองสามารถเชื่อมโยงกันได้ถึงปัญหาทางสังคมที่ เกิดขึ้นในยุคนั้นจนถึงขนาดที่ไม่กล้าเปิดเผยความสวยงามที่มีค่ามหาศาลนี้ แต่อีกด้านหนึ่งนั้นช่างผู้พอกปูนทับลงไปนั้นได้แสดงถึงความชาญฉลาดในการ เก็บรักษาทองคำ โดยได้ลงรักไปบนผิวองค์พระทองคำก่อนที่จะพอกปูนทับ ทั้งนี้สันนิษฐานว่าเพื่อให้ปูนยึดเกาะได้ดีขึ้นและสามารถรักษาเนื้อ ทองคำใม่ให้ถูกกัดกร่อนจากความเค็มของปูนได้เป็นอย่างดี เพราะปูนในสมัยก่อนนั้นทำมาจากหินปูนหรือเปลือกหอยจากทะเลนำมาเผา ซึ่งจะมีความเค็มมากกว่าปูนในปัจจุบัน ถ้าใครเคยมาสักการะหลวงพ่อทองคำแล้วก็จะเห็นได้ถึงความแวววาวของเนื้อทองคำ บริสุทธิ์ที่ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ | ||||
ต่อมาในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์นั้นได้มีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำมา ประดิษฐานที่วัดพระยาไกร ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และสุดท้ายย้ายมาประดิษฐานที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำนั้นได้รับความสนใจจากประชาชนในระแวกนั้น เป็นอย่างมาก ครั้นเมื่อจะยกไปประดิษฐานยังชั้นบนของวิหารก็ต้องใช้ทั้งแรงคนและ เครื่องมือมากมายแต่ไม่สำเร็จเพราะมีน้ำหนักที่มากเกินกว่าที่คาดคะเนไว้ และช่วงที่กำลังยกองค์พระขึ้นไปสักพักเชือกกลับขาจนองค์พระตกลงมากระแทกพื้น เกิดเป็นรอยร้าว จึงยุติการดำเนินการลง แต่ในคืนเดียวกันนั้นเองเจ้าอาวาสวัดในขณะนั้นได้ฝันเห็นหญิงสูง ศักดิ์คนหนึ่งนำสังวาลมามอบให้ แล้วกำชับให้ท่านเก็บรักษาไว้ ต่อไปจะมีเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เช้ารุ่งขึ้นทางวัดจึงสำรวจดูรอยร้าวและพบว่ามีการลงรักปิดไว้ จึงตัดสินใจแกะรักนั้นออกและพบเป็นเนื้อทองคำอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน | ||||
เรื่องราวของหลวงพ่อทองคำนั้นไม่เพียงแสดงให้เห็นคุณค่าทางด้าน ศิลปกรรม แต่ยังสะท้อนเรื่องราวของสังคมในแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันน่าแปลกที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจกับหลวงพ่อทองคำมากกว่าคนไทย อาจจะเป็นเพราะการจัดการของวัดหรืออย่างไรก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าหลวงพ่อทองคำนั้นย่อมเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทยที่ เกิดจากแรงศรัทธาใน พระพุทธศาสนาที่ถ่ายทอดผ่านช่างฝีมือในอดีตออกมาเป็นศิลปกรรมที่มี คุณค่าในด้านพุทธศิลป์ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องเดินทางมาเพื่อให้เห็นกับตา และข้อสรุปของการเสวนา เรื่อง "หลวงพ่อทองคำ ถอดรหัสพุทธศิลป์สู่พุทธธรรม" ที่ผ่านมา ได้ความเห็นที่ตรงกันว่า อะไรก็ตามที่ทำให้หลวงพ่อทองคำนั้นงดงามนั้นย่อมไม่ใช่เพราะทองคำ หรือมูลค่า แต่ยังเป็นปริศนาธรรมที่ให้เราเก็บไปคิดว่าความงดงามที่เกิดขึ้นและยังอยู่ คู่กับเราจนปัจจุบันนั้นเกิดจากคำว่า ศรัทธา ใช่หรือไม่ * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯเขตสัมพันธวงศ์ กทม. มีหลวงพ่อทองคำประดิษฐานอยู่ ภายในพระมหามณฑป ที่ชั้น 4 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 -17.00 น. ส่วนชั้น 2 เป็น ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ชั้น 3 เป็นนิทรรศการพระพุทธมหาสุวรรณ ทั้งชั้น 2 และ 3 เปิดทุกให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น. ทั้งนี้ผู้สนใจรายละเอียดสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2623-3329-30 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น