วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มันจะเอาอีก

19 พค. 2553 14:54 น.

นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวถึงการเข้ามอบตัวของแกนนำนปช.ว่า ขณะนี้กลุ่มแกนนำสามเกลอถือว่าจบบทบาทในการนำมวลชนนปช.แล้ว เพราะเป็นการนำที่ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่นายวีระ มุสิกพงษ์ เป็นแม่ทัพที่หนีทัพ ส่วนนายจตุพร และแกนนำคนอื่นๆ เป็นก็ถือว่าเป็นแกนนำที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ที่อ่อนประสบการณ์มาก จึงทำให้พามวลชนคนเสื้อแดงไปถึงทางตัน และเกิดความสูญเสียทำให้มวลชนต้องเสียชีวิต ส่วนที่แกนนำคนอื่นๆไปมอบตัวที่สตช.ก็เพราะเป็นทราบกันดีว่า หากทหารเคลียร์เข้ามาถึงเวทีราชประสงค์ได้ ก็จะมีการล็อดเป้าและชาร์จมาถึงแกนนำได้ก็อาจจะถูกเก็บได้ เพราะเป้าหมายครั้งนี้ไม่ใช่มวลชนแต่จะเป็นแกนนำ
นายสุรชัย กล่าวว่า ในขณะนี้ตนกำลังประสานไปยังมวลชนนปช.ที่อยู่ในกทม.และต่างจังหวัด ที่กำลังเกิดความไม่พอใจแกนนำนปช. ดังนั้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ไว้เพื่อไม่ให้เกิดอาณาธิอปไตย เพราะการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในวันนี้เพรี่ยงพล้ำแต่ยังไม่ถือว่าพ่ายแพ้ เรื่องนี้ยังต้องต่อสู้กันอีกยาว แต่มวลชนคนเสื้อแดงจะต้องหยุดก่อน และกลับไปตั้งหลัก ซึ่งเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทราบดีแล้วว่าการที่ไปหลงเชื่อแกนนำสามเหลอเป็นการตัดสินใจที่ผิด พลาด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เป็นต้นไป กลุ่มแดงสยามนำโดยตนและนายจักรภพ เพ็ญแข รวมถึงแกนนำที่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อจะเข้ามารับไม้ต่อในการควบคุมดูแลมวลชน นปช.ทั่วประเทศ และมีแนวโน้มว่าภายใน 1 - 2 วันนี้ หากมีการประกาศยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ตนและคณะจะเปิดเวทีเพื่อทำความเข้าใจในการต่อสู้ในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการต่อสู้แบบปฎิวัติ ไม่ใช่การปฎิรูปที่จะใช้เวลานาน ซึ่งเป็นการสู้ที่ผิดวิธี


วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เอาใจช่วยนะ

สะพัด"ไอ้กี้ร์"ทิ้งไพร่ พยายามเผ่นเอาตัวรอด!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 19 พฤษภาคม 2553 11:58 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาด ใหญ่ขึ้น
ภาพวันที่ไอ้กี้ร์พยายามโรยตัวหนี การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ดูสิคล้ายตัวตัวอะไร


ภาพเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกโรงแรม รอยัล คลิฟ พัทยา

เกิดข่าวสะพัด "อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" พยายามพรางตัวหลบหนีไปจากแยกราชประสงค์ ปล่อยให้แกนนำคนอื่นและมวลชนเผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง โดยมุ่งหน้าไปทางประตูน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าพรางตัวหลายครั้ง แต่ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า สามารถหลบหนีรอดไปได้หรือไม่ หรือยังคงซุ่มเงียบอยู่ที่หลังเวที

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายหลังกำลังทหาร เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยเริ่มเข้ากดดันขอพื้นที่คืนจากแยกศาลาแดงและสามารถทำได้สำเร็จไปนั้น ทำให้บริเวณหลังเวทีปราศรัย อันเป็นที่พักของบรรดากลุ่มแกนนำคนสำคัญ ต่างปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. บรรดาแกนนำยังคงอยู่ในพื้นที่กับครบ รวมทั้งนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ก็ยังปรากฏตัวให้เห็น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. มีรายงานว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง พยายามที่จะหลบหนีออกจากพื้นที่การชุมนุม โดยมุ่งหน้าไปทางบริเวณถนนราชปรารภ ผ่านไปทางประตูน้ำ และได้เปลี่ยนชุดแต่งตัวเพื่ออำพรางตัวในรถไปตลอดทาง ในขณะเดียวกัน ทางทหารก็ได้รับทราบกระแสข่าวนี้แล้ว และกำลังสกัดจับนายอริสมันต์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายคนสำคัญอยู่ แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันว่า นายอริสมันต์ได้หลบหนีออกไปนอกพื้นที่ หรือยังคงอยู่ในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ไม่มีผู้สื่อข่าวประจำอยู่ เพราะตำรวจได้สั่งให้สื่อมวลชนทั้งหมดเข้าไปหลบอยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่ง ชาติตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว

สำหรับนายอริสมันต์ ถือเป็นแกนนำฮาร์ตคอร์คนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง ตั่งแต่การชุมนุมเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา โดยเป็นผูนำกลุ่มมวลชน บุกเข้าไปภายในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา สถานที่ประชุมอาเซียนซัมมิตที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดในครั้งนั้น จนทำรัฐบาลต้องออกมาประกาศยกเลิกการประชุม พร้อมกับประกาศพรก.ฉุกเฉินเพื่อรักษาความสงบในเมืองพัทยา และจ.ชลบุรี

ต่อมา ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ นายอริสมัตน์ ยังยกพวกบุกรัฐสภา เข้าไปยึดอาวุธปืน และทำรุมทำร้ายสารวัตรทหารจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาตำรวจพยายามเข้าจับกุมบรรดาแกนนำ ที่ไปหลบนอนในโรงแรมเอสซีปาร์ค แต่นายอริสมันต์ ได้ปีนหน้าต่าง ใช้เชือกโรยตัวและพามวลชนที่ไปกดดันตำรวจหลบหนีกลับเวทีแยกราชประสงค์ไปได้

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ที่ติดตามข่าวสารการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ต่างแสดงทัศนะไปในทิศทางเดียวกันเป็นส่วนมากว่า ในบรรดากลุ่มแกนนำทั้งหมดนั้น มีเพียงนายอริสมันต์เพียงคนเดียวที่น่าหมั่นไส้มากที่สุดด้วย

ทางด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ทางทีมสืบสวนของดีเอสไอกำลังตรวจสอบข่าวและการเคลื่อนไหวของ นายอริสมันต์ อยู่ตลอดเวลาและมีการประสานกับทางตำรวจที่ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าได้เบาะแสที่แน่นอนจะสามารถเข้าจับกุมมาดำเนินคดีได้

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ได้มีคำสั่งถอนกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษดีเอสไอ ที่ออกปฏิบัติภารกิจแฝงตัวในพื้นที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงให้กลับมาดูแล สำนักงานดีเอสไอบนถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำรอย กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งถูกคนร้ายบุกเข้าไปลอบวางเพลิงเผาอาคาร โดยมีคำสั่งห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าออกสำนักงาน

ทั้งนี้ หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือมีพฤติการณ์ผิดปกติ เจ้าหน้าที่จะใช้อาวุธเข้าดำเนินการทันที อย่างไรก็ตามเรื่องการดูแลความปลอดภัยได้มีคำสั่งให้ข้าราชการและเจ้า หน้าที่ทุกคน ซึ่งเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา

นายธาริต กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นการออกประกาศคุมธุรกรรมทางการเงินบุคคลและนิติบุคคล กว่า 106 บัญชีรายชื่อ และวานนี้(18 พ.คง) เพิ่มอีก 37 รายชื่อนั้นจะดำเนินการแบบเดียวกันที่ออกรายชื่อครั้งแรก คือให้มารายงานธุรกรรมทางการเงินตั้งแต่เดือน 1 ก.ย. 52 - 17 ก.ย. 53 โดยกำหนดให้ส่งรายงานในวัน ที่ 20 พ.ค. 53 เหมือนกับชุดแรก ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกันหลายหน่วยงาน ถ้าผู้ที่มีรายชื่อไม่มารายงานจะมีความผิด ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำและปรับ ตามมาตรา 28 แห่งพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ลางร้าย

ในที่สุด หมากเกมของแม้วในการเดิน เริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆ
………………………….

1.- ใช้บิ๊กจิ๋ว มารบกวนเบื้องสูง = Absolutely Failed with Intense Reverse Action

2.- ให้เด็กเสธแดง มายิงคนให้ตายเยอะ ๆ = Absolutely Failed with Intense Reverse Action

3.- ให้ สส พรรค แกนนำย่อย พาคนมาเผาเมือง = Absolutely Failed with Intense Reverse Action

4.- ให้ ตำรวจมะเขือเทศ และทหารแตงโม ไม่ทำงานเต็มที่ = Failed

5.- UN ไม่เล่นด้วย เพราะ UN ยังคงไม่ใช่ “พ่อของแม้ว” เหมือนเดิม = Absolutely Failed

6.- ม็อบ นปชก (แนวร่วม ปกป้อง-ช่วยเหลือ กลุ่มก่อการร้าย) ที่ราชประสงค์ ไม่สะเทือนซาง รัฐบาล
= Absolutely Failed with Intense Reverse Action
…………………………….
ยังไงก็ล้ม รัฐบาลไม่สำเร็จ
…………………………………
แถมเริ่มเห็นลางแพ้

1.- วีระหนีก่อนเพื่อน อันนี้สำคัญมาก เพราะ วีระเป็นแกนนำสำคัญคนหนึ่ง
คิด ดูว่า ถ้าคุณสนธิ หรือ คุณพิภพทิ้ง พธม ไปเลย โดยไม่มีเหตุผลที่ดีพอ ม็อบจะเฉาแค่ไหน

2.- และแกนนำหลายคนก็หนีอย่างเป็นทางการ
เช่น วิสา ไพจิตร อดิศร และจะมาเรื่อย ๆ

3.- เมธีโดนจับ แกนนำเสื้อดำโดนจับไปหลายคน คายความลับกันอุตลุต

4.- สส พรรคแม้ว ชักเริ่มเงียบไปหลายคน ไม่มาเวที แถมปิดพรรคหนีอีก
เพราะ ขี้ขลาดตาขาว และรู้แล้วว่า ม็อบแพ้ 5ล้าน %

5.- ม็อบโดนปิดล้อม หลายวัน เมื่อวาน ดูทีวี หน้าเวที มีอยู่ 40-50 คนจริง ๆ
ทั้งม็อบเหลือประมาณ 2000-3000 คน กระจายมาก ๆ

6.- โดนจับภาพได้ว่า ใช้อาวุธมากมายมหาศาล ใช้เด็ก ใช้ผู้หญิง ออกข่าวทั้งโลก

7.- โดนรัฐบาลตอกกลับเรื่อง การใช้อาวุธ ได้ทุกช็อต ทุกเสต็ป
แถมมีคลิปแก้ต่างของ ศอฉ มากมาย เดี๋ยวคลิปพวกนี้ ศอฉ จะเอาแฉไปทั้งโลก ในวันนี้

8.- ปลุกกระแส คน กทม ให้มาล้มรัฐบาลไม่ได้ อย่าลืมว่าการล้มรัฐบาลให้สำเร็จทุกครั้งนั้น
มา จาก คน กทม รอบนี้ คนตายเป็นสิบ คน กทม มีแต่ให้กำลังใจทหาร สาปแช่ง นปชก
เทียบ กับ พฤกษภาทมิฬ ซิ คนไม่ออกมารวมตัวกันเป็นแสนคน
สรุปว่า แผนสังเวยเสธแดง สังเวยเสื้อแดงมา 2 รอบ "ล้มเหลวเต็มรูปแบบ"

9.- แม้วนั้น โดนคำพูดของแกนนำมัดตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ คำพูดพวกนี้ ศาลรับฟังแน่นอน
เพราะ เป็นแกนนำมานาน และตอนให้สัมภาษณ์ ไม่มีใครมากดดันด้วย
ไม่ได้โดนจับแล้วค่อยสัมภาษณ์ เสธแดงบอกไป สองดอก จรัล จัดมาอีกดอกหนึ่ง
แค่นี้ แม้วก็โดนคดี เป็นผู้นำสูงสุด ของ นปชก "แนวร่วม ปกป้อง-ช่วยเหลือ กลุ่มก่อการร้าย"

10.- โดน Freeze เงิน ของพวกที่มาป้อนม็อบ และอาจจะมีการแจ้งความดำเนินคดีพวกแนวร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ
เช่น เจ้าของ อิมพีเรียล ไม่น่ารอด

11.- ไม้ตาย 5 ข้อ ข้างบน Fail หมด เละตุ้มเปะ แบบหมดราคา เจอตอกกลับทุกดอก
ตำรวจ ทหารแตงโมชักปอด ๆ ไม่กล้าเบี้ยวมากเหมือนเมื่อก่อน เพราะดูออกว่าแม้วใกล้แพ้
กลัว ปชป จะตามเช็คบิลอีก กลัวโดนสาวถึงด้วย

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความยุ่งเหยิง

จนวันนี้ บ้านเมืองยังยุ่งเหยิงไม่หยุดหย่อน อยากให้จบเรื่องเรียบร้อยเสียที มี link เป็นข้อมูล
แต่ไม่รู้ว่าจะมีอายุนานเท่าใด
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000068256
http://manager.co.th/lite/ViewNews.aspx?NewsID=9530000068228
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000068254
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000068232

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเริ่มต้น

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฏาคม 2552
ลองจิ้มลองทิ่ม ก็ได้เริ่มต้น หวังว่าคงเป็นประโยชน์ในกาลหน้า