วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

รถบ้าน "วิกรม กรมดิษฐ์ "

เปิดตัว "มอเตอร์โฮม" รถบ้าน "วิกรม กรมดิษฐ์ "
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2554 08:48 น.
ข่าวในประเทศ-เวทีมอเตอร์โชว์ 2011 สร้างสีสันเปิดตัวรถมอเตอร์โฮม 3 คันที่ประกอบขึ้นเพื่อใช้เดินทางการถ่ายทำสารคดีชุด "เบิกฟ้าท้าโลก" เพื่อตามหารากวัฒนธรรมของประเทศลุ่มน้ำโขง โดยมีมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่รถขบวน (Leader Bus) ใช้เป็นสถานที่ทำงานและห้องนอนของ วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะที่ร่วมเดินทางไปด้วย


รถขบวน (Leader Bus)
การถ่ายทำสารคดีชุดเบิกฟ้าท้าโลก ตามหารากวัฒนธรรมของประเทศลุ่มน้ำโขงตั้งแต่ ไทย ลาว เวียดนาม จีน และพม่า รวมระยะเวลาประมาณ 4 เดือน โดยการเดินทางใช้รถมอเตอร์โฮมจำนวน 3 คัน ซึ่งทั้งหมดเป็นรถจาก HINO ประกอบในประเทศไทย ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 212 แรงม้า ระบบหัวฉีดแบบคอมมอนเรล ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อมระบบเผาไหม้ แบบไดเรค อินเจคชั่น (Direct Injection) ทุกคันเป็นแบบ 2 เพลา เนื่องจากต้องการกำลังในการขับเคลื่อนสูง แต่ไม่ต้องการความเร็วมาก

แม้จะเป็นรถที่ประกอบจากแหล่งเดียวกัน แต่ตัวรถทั้ง 3 คันมีจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังถูกออกแบบให้ทุกตารางนิ้วสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดแบบมัลติเพอร์โพส (Multipurpose) โดยรถขบวน (Leader Bus) เป็นรถขนาดสิบล้อ มูลค่า 7 ล้านบาท ใช้เป็นสถานที่ทำงานและห้องนอนของวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะที่ร่วมเดินทางไปด้วย มีที่ประชุมประมาณ 7 ที่นั่ง พร้อมห้องนอนของแขก ส่วนคันที่ 2 คือ รถ Office (Office Bus) รถขนาดสิบล้อ มูลค่า 7 ล้านบาท ใช้เป็นที่ทำงานของพนักงาน, ห้องประชุมใหญ่ 7 ที่นั่ง, ห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องนอนของพ่อครัวและคนขับรถ และคันที่ 3 คือ รถพนักงาน (Crew Bus) รถขนาดหกล้อ ราคา 6 ล้านบาท ใช้เป็นที่พักผ่อน, ห้องนอน, ห้องทำงานของพนักงาน 7 คน และห้องพยาบาล

รถทุกคันออกแบบโครงสร้างภายนอกโดยบริษัท พานทอง ส่วนการเพิ่มเติมอุปกรณ์และตกแต่งภายในโดย บริษัท Motor Home โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น Koeji Matsuda อายุ 65 ปี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท Vantec ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตและขายรถ Camping Car มากเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น คิดเป็น 60% ของตลาดรถบ้าน มาออกแบบและติดตั้งให้ด้วยตัวเอง

ภายในพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องน้ำ ประกอบด้วยห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือ และโถส้วมซึ่งเป็นระบบเผาไหม้ของเสีย เพื่อให้สะดวกแก่การทำความสะอาด, แหล่งกำเนิดไฟฟ้า มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 8.5 KW ใช้น้ำมันดีเซล, เครื่องซักผ้า มี 1 เครื่อง ขนาด 20 กิโลกรัม, ห้องครัวทำจากสแตนเลสทั้งหมด สามารถทำอาหารเลี้ยงแขกได้ประมาณ 20-30 คน ประกอบด้วย เตาแก๊ส 2 หัว เครื่องไมโครเวฟ 1 เครื่อง ตู้แช่แข็งสำหรับแช่เนื้อและตู้เย็น 1 ตู้, ความบันเทิงในรถ ทุกห้องมีวิทยุ Sony ทั้งหมดพร้อมลำโพง ในพื้นที่ส่วนกลางของรถแต่ละคันมี TV LCD และ DVD

ด้านความปลอดภัยภายในรถทุกคัน เนื่องจากเครื่องอำนวยความสะดวกบนรถทั้งหมดใช้ระบบไฟฟ้า รวมถึงการทำความเย็นภายในรถ ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าทั้งหมด ใช้ระบบ Breaker และ Fuse เพื่อป้องกันการใช้ไฟเกินจากที่กำหนด และมีถังดับเพลิงภายในในกรณีเกิดไฟไหม้ ขณะที่ภายนอกรถใช้ระบบกล้องจับวัตถุเคลื่อนไหว และบันทึกใน Computer และมีสัญญาณเตือนเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าใกล้รถ

ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 29 มีนาคม 2554 จะเป็นการปล่อยขบวน "คาราวานท่องลุ่มน้ำโขง" จากอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สู่สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว เป็นจุดหมายแรกของการเดินทาง



วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

โซลาร์ฟาร์ม

เปิด "โซลาร์ฟาร์ม" โคราช ไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใหญ่สุดอาเซียน - จ่อผุด 34 แห่งอีสาน 2.4 หมื่นล. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2554 15:21 น.

“โซล่าฟาร์ม โคราช 1” ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของไทยและใหญ่สุดในอา เซียน ของ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด วันนี้ ( 20 มี.ค.)

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เปิด ตัว “โซลาร์ฟาร์ม โคราช 1” โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สุดในอาเซียน ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง ระบุทุ่มทุนสร้าง 700 ล้าน ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ร่วม 3 หมื่นแผง บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ กำลังผลิต 6 เมกะวัตต์ จำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ เม.ย. โกยรายได้วันละกว่า 4.3 แสน เผยแผนลงทุน 2.4 หมื่นล้าน ผุดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์พลังงานสะอาดรวม 34 แห่งใน 9 จว.ภาคอีสาน ตั้งเป้าดำเนินการเสร็จในปี 2556

วันนี้ (20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านดอนชมพู ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา บริษัทโซล่า เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของประเทศไทย ได้ทำพิธีเปิดตัวโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเป็นทาง การ โดยใช้พื้นที่กว่า 100 ไร่ ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 29,160 แผง มีกำลังผลิตไฟฟ้า 6 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขณะนี้

น.ส.วันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทโซล่า เพาเวอร์ มีแผนลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ภาคอีสาน 34 โครงการ รวมกำลังผลิต 205 เมกะวัตต์ ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 24,000 ล้านบาท โดยจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2556 ซึ่งโครงการทั้งหมดมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค (กฟภ.) โดยเน้นลงทุนในภาคอีสาน ซึ่งมีความเข้มข้นของรังสีจากแสงอาทิตย์สูง

ได้แก่ 1. จ.นครราชสีมา 9 แห่ง กำลังผลิต 54 เมกะวัตต์ เงินลงทุนประมาณ 6,300 ล้านบาท ,
2.จ.ขอนแก่น 10 แห่ง กำลังผลิต 60 เมกะวัตต์ เงินลงทุน7,000 ล้านบาท ,
3.จ.บุรีรัมย์ 3 แห่ง กำลังผลิต 18 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 2,100 ล้านบาท
4.จ.สุรินทร์ 3 แห่ง กำลังผลิต 18 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 2,100 ล้านบาท ,
5. จ.นครพนม 3 แห่ง กำลังผลิต 18 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 2,100 ล้านบาท ,
6. จ.สกลนคร 2 แห่ง กำลังผลิต 12 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 1,400 ล้านบาท ,
7. จ.ร้อยเอ็ด 2 แห่ง กำลังผลิต 12 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 1,400 ล้านบาท ,
8. จ.หนองคาย 1 แห่ง กำลังผลิต 6 เมกะวัตต์ และ
9. จ.อุดรธานี 1 แห่ง กำลังผลิต 6 เมกะวัตต์ เงินลงทุนแห่งละ 700 ล้านบาท

สำหรับโซลาร์ฟาร์มโคราช 1 (ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ) แห่งนี้ ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ไทย และใหญ่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ภายใต้การบริหารงาน ของ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 1 ) จำกัด มีผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สำคัญ เช่น มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม , บริษัท ไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัด เป็นต้น ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 ที่ผ่านมา สร้างรายได้วันละ 4.3 แสนบาท

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ทำการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งที่ 2 ภายใต้บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 1 ) ที่ จ.สกลนคร สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้แล้วตั้งแต่เดือนก.พ. 2554 ที่ผ่านมา และ แห่งที่ 3 ภายใต้ บริษัทโซล่า เพาเวอร์ ( นครพนม 1 ) จำกัด ที่ จ.นครพนม ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ภายในเดือน มี.ค.2554 นี้

“การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่สะอาด ปราศจากมลิษที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิง ค่าบำรุงรักษาน้อย และยังสามารถพัฒนาคาร์บอนเครดิต เพื่อช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย” น.ส.วันดี กล่าว



น.ส.วันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด



วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อาลัย

ปิดฉากชีวิต “เล็ก วงศ์สว่าง
Posted by bluetranebkk
http://www.oknation.net/blog/rakmusic/2010/10/28/entry-1

เจ้าของรายการ “I.S. Song Hits” หรือ รายการเพลงประทับใจ
กับสโลแกนประจำตัว “ถ้าเราไม่ริ แล้วใครจะเริ่ม ” ขวัญใจนักฟังเพลงในยุค60’s หรือ โก๋หลังวัง

นาย เล็ก วงศ์สว่าง นักจัดรายการวิทยุ เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อเวลา 10.40 น. วันนี้ (28 ต.ค.2553) ที่โรงพยาบาล ศิริราช ด้วยโรคประจำตัวคือ MDS (ระบบการผลิตเม็ดเลือดบกพร่อง) โดยความดูแลอย่างดีของ ศ.นพ.สุรพล อิสรไกรศีล

นายเล็กเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.ศิริราชเมื่อวันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนเข้าโรงพยาบาล คุณเล็กมีอาการ อ่อนเพลีย ภรรยา(นางจารุวรรณ วงศ์สว่าง)และลูกๆ จึงนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา โดยได้รับการตรวจเม็ดเลือด ปรากฏว่า เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือดต่ำ มีปริมาณเม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ จนทำให้มีจำนวนเม็ดเลือดขาวเพื่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็น เอ็กซ์คิว ลูคีเมีย (มะเร็งในเม็ดเลือดอย่างฉับพลัน) ทั้งนี้คณะแพทย์ ได้พยายามรักษาอย่างสุดความสามารถ

โดยมีกำหนดการพิธีรดน้ำศพ เล็ก วงศ์สว่าง ในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม เวลา 16.00 น. ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม ศาลา 7 ครอบครัวมีกำหนดเก็บศพไว้เป็นเวลา 100 วัน และมีกำหนดสวดอภิธรรมจำนวน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน ศกนี้

ประวัติชีวิต เล็ก วงศ์สว่าง

History IS SONG HIT

บริษัท วงศ์สว่างการพิมพ์ จำกัดเริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2512 โดย คุณเล็ก วงศ์สว่าง อดีตนักจัดรายการเจ้าของรายการ “I.S. Song Hits” หรือ รายการเพลงประทับใจ กับสโลแกนประจำตัว “ถ้าเราไม่ริ แล้วใครจะเริ่ม ” ขวัญใจนักฟังเพลงในยุค60’s หรือ โก๋หลังวัง

ขณะนั้นคุณเล็ก มีสไตล์การเปิดเพลงและจัดรายการในรูปแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใครจึงได้รับความ นิยมสูงสุดในยุคนั้น ระหว่างนั้นแฟนเพลงมักขอเนื้อเพลงเพื่อร้องตามขณะฟังรายการที่เขาเปิด จึงเกิดความคดในการทำหนังสือเพลงรวมเนื้อเพลงสากลโดยนำชื่อรายการวิทยุมา ตั้งเป็นชื่อหนังสือ ทำให้ I.S.Song Hit ผงาดบนแผงหนังสือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเป็นหนังสือที่ขายหมดแผงในเวลาอันรวดเร็ว จนกลายเป็นตำนานเพลงสากลในเมืองไทย

หลังจากนั้นเพลงสากลได้ รับความนิยมน้อยลง และมีเพลงไทยเข้ามามีบทบาทมากขึ้น คุณเล็กจึงหันมาทำหนังสือเพลงไทยเพื่อต้อนรับแฟนเพลงชาวไทย โดยนำจุดเด่น คือ นำคอร์ดกีตาร์มารวมไว้ในเนื้อเพลง ให้ผู้อ่าน ทั้งร้องทั้งเล่นกีตาร์ไปพร้อมๆกัน โดยใช้ชื้อหนังสือเล่มนี้ “The Guitar” และกลายเป็นต้นแบบของหนังสือเพลงในเมืองไทยมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจาก นี้ หนังสือ The Guitar ยังเป็นหนังสือเพลงที่เป็นเสมือนใบเบิกทางสร้างนักดนตรีศิลปินขึ้นมาประดับ วงการมากมายและเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ทรงอิทธิพลในวงการเพลงมากที่สุดไม่ว่าจะ เป็นวง The Impossible Royal Sprite ชาตรี คีรีบูน Grand X จนถึงปัจจุบัน จากความนิยมและการเติบโตของนิตยสารตั้งแต่ปี 2512 นิตยสาร The Guitar ได้รับการพัฒนาเรื่อยมา อีกทั้งยังเป็นต้นแบบให้กับนักกีตาร์มืออาชีพและสมัครเล่น ที่ต้องมีเป็นคู่มือติดตัว ดังเช่นศิลปินที่โด่งดังตลอดการได้ให้คำนิยมถึง นิตยสาร The Guitar ว่า

นิติพงษ์ ห่อนาค “ ผมเป็นชาว IS Song Hits ” มาตั้งแต่เด็ก นะครับ เล่นกีตาร์เป็นเพราะ The Guitar ”

แอ๊ด คาราบาว “ตั้งแต่ผมมีอายุ 5-6 ขวบ ก็สนใจการร้องเพลงแล้วและได้ หนังสือ The Guitarนี่แหละที่เป็นครูสอนการเล่นกีตาร์ ซึ่งตอนนั้นยังเป็น I.S.Song Hit อยู่เลย

เสก โลโซ “ ตัวผมเองก็เป็นแฟน The Guitar ผมเติบโตมากับ The Guitar ตั้งแต่สมัยเล่มเล็กๆ ที่ผบ้านผมยังมีหนังสือ I.S.Song Hit เยอะมากๆ ”

จากนั้นคุณเล็กเริ่มหันมาสนใจบุกเบิกงานด้านธุรกิจสิ่ง พิมพ์แบบเต็มตัวโดยจัดทำหนังสือและนิตยสารมากมาย อาทิ ศาลาคนเศร้า ที่ได้แนวความคิดมาจากแฟนเพลงเขียนจดหมายระบายความในใจผ่านทางรายการวิทยุ ที่ตัวเองจัด ศาลาคนเศร้าจึงเป็นพอคเก็ตบุ๊คที่รวมเรื่องราวความรักและชีวิตจากประสบการณ์ จริงของผู้อ่านที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

นอก จากนี้ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น คุณเล็กได้ริเริ่มการผลิตนิตยสารแฟชั่นเป็นรายแรกของเมืองไทย ในชื่อว่า Teenage fashion และ Star Fashion นิตยสารที่รวบรวมผลงานจากห้องเสื้อชั้นนำมากมาย และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาและแตกแขนงของนิตยสารแฟชั่นด้านอื่นๆ ทั้งเสื้อผ้า ทรงผม อาทิ Bride International , Kiddy , Hair Style ฯลฯ นอกจากนี้คุณเล็กยังเป็นราชาโปสเตอร์ ที่นำศิลปิน ดาราชื่อดังมาถ่ายภาพเพื่อทำโปสเตอร์ซึ่งได้รับความนิยมมากในยุคนั้น

แม้ ในช่วงวิกฤตปี 2540 คุณเล็กยังเป็นผู้พลิกผันวงการหนังสือด้วยการเริ่มต้นทำพ็อกเก็ตบุ๊กชื่อ “ทะลึ่ง” หนังสือคลายเครียดสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งผลตอบรับเป็นไปอย่างท่วมท้นจนติด 1 ใน 10 หนังสือขายดีของร้านจำหน่ายหนังสือชั้นนำติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน และตามติดมาด้วยหนังสือประเภทเดียวกัน อาทิ ตลกนักศึกษา, ทะลึ่งมินิ, ฮาขั้นเทพ และอีกมากมาย


จากก้าวแรกในวันนั้น จนถึงปัจจุบัน คุณเล็กได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ วางรากฐานให้ “บ.วงศ์สว่างกรพิมพ์” มีความยิ่งใหญ่มั่นคงมากว่า 40 ปี โดยคุณเล็กยังคงดำรงตำแหน่ง ประธานบริษัท โดยมี คุณจารุวรรณ(ภรรยา) ดำรงตำแหน่งรองประธาน โดยมีบุตรธิดา ทั้ง 3 คน ช่วยกันบริหารกิจการตามกำลังความสามารถและความถนัด ได้แก่ คุณนรรฆพล ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ คุณปิยะวรรณ วงศ์สว่าง ตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร และ คุณภัทรพล วงศ์สว่าง ผู้อำนวยการผลิต มาช่วยเติมเต็มให้บริษัทสามารถขับเคลื่อนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นอกจาก งานผลิตหนังสือและนิตยสารกว่า 50 หัวแล้ว บริษัทวงศ์สว่างการพิมพ์ จำกัด ยังให้บริการออกแบบให้บริการถ่ายภาพ และบริการงานพิมพ์โดยบุคลากรมากประสบการณ์ ด้วยแท่นพิมพ์คุณภาพสูง ภายใต้สโลแกน “สูงด้วยคุณภาพ พร้อมผลงานที่รวดเร็ว


การเดินทางที่ไม่สิ้นสุด


จาก ดำริของลูกสาว ปิยะวรรณ วงศ์สว่าง ที่ได้กล่าวไว้เมื่อตอนที่คุณเล็ก วงศ์สว่างมีชีวิตว่า ตั้งใจจัดคอนเสิร์ตนี้ให้กับคุณพ่อ เพื่อเป็นของขวัญที่ท่านทำงานมาอย่างหนัก และสร้างคุณประโยชน์อย่างมากมายให้กับวงการเพลงการเพลงไทย โดยเฉพาะการทำหนังสือเพลง เดอะกีตาร์ หนังสือเพลงที่ใส่คอร์ดกีต้าร์เจ้าแรก ที่ผ่านมากว่า40 ปีมาหลายปี ซึ่งนักดนตรีชื่อดังหลายคนได้หนังสือการเล่นกีตาร์มาจากหนังสือคุณพ่อและ เติบโตมาหลายวงคาราบาว คาราวาน ดิอิมพอสซิเบิ้ล แมคอินทอช แกรนด์เอ็กซ์ และอีกมากมายหลายวง บุ๋มเลยคิดว่าน่าจะมีคอนเสิร์ตสักครั้งหนึ่งให้พี่ๆน้องทั้งนักดนตรีและคน ไทยได้ดู ย้อนวันวานกันดีกว่าแล้วเงินได้ทำบุญด้วย โดยคอนเสิร์ต The Legend of the Guitar จะมีขึ้นในวันที่ 20-21 .พ.ย. นี้ที่ทะเลสาบเมืองทองธานีค่ะ”


The Legend of The Guitar
ปรากฏการณ์ ครั้งแรกในการรวมตัวของศิลปินจาก 4 ทศวรรษ ตั้งแต่ปี 70’s – ปัจจุบัน โดยไม่แบ่งค่าย ไม่แบ่งยุค โดยจะเต็มอิ่มกับการแสดงดนตรีแสดงสดของศิลปินกว่า 100 ชีวิต ตลอด 2 วัน 3 เวที อาทิ ชาตรี แมคอินทอช พิงค์แพนเตอร์ รอยัลสไปรท์ ติ๊ก ชีโร่ หรั่ง รอคเรสตร้า นูโว เสก โลโซ แบลคเฮด ซิลลี่ฟูลล์ บอยเสกาท์ XYZ โจอี้บอย น้ำชา สิงโต เดอะสตาร์ สล็อตแมทชีน แทคทูคัลลเลอร์ ฯลณฯ และ ภายในงานจัดให้มีนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางดนตรีของหนังสือ The Guitar ประมูลกีตาร์ Gibson รุ่น ES-335 Limited Edition ตัวเดียวในโลก พร้อม Logo 40 ปี The Guitar สั่งทำพิเศษจากโรงงาน Gibson ประเทศสหรัฐอเมริกา ชมGallery กีตาร์คนดังจำนวน 40 ตัว อาทิ แอ๊ด คาราบาว กิตติ กีตาร์ปืน เสกโลโซ นภดล ธรรมวัฒนะ ฯลฯ การแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้นอกจากความสนุกสนานทางดนตรีแล้ว บรรยากาศการชมคอนเสิร์ตจะโรแมนติกด้วยความงดงามของดวงจันทร์เต็มดวง ตรงกับวันลอยกระทง ซึ่งได้เตรียมพลุ สุดตระการตา ปิดท้ายรายการอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย รายได้ส่วนหนึ่งของการจัดงาน มอบแก่มูลนิธิ พระดาบส โรงพยาบาลศิริราช และ ทหาร ตำรวจ 3 จังหวัดภาคใต้

อนึ่ง การจัดคอนเสิร์ต The Legend of the Guitar ครั้งนี้ ลูกสาวผู้เป็นโต้โผในการจัดเพื่อคุณพ่อ ได้หารือกับทางครอบครัวแล้ว จะยังคงเดินหน้าจัดงานตามที่ได้ตั้งใจทุกประการ โดยจะจัดให้อย่างยิ่งใหญ่ สมเกียรติที่สุดตามที่ได้ตั้งใจตามเจตนารมย์เดิมที่ได้วางไว้ และมีความเชื่อว่า การจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ คุณพ่อเล็ก วงศ์สว่าง จะเป็นกำลังใจ และคอยเฝ้ามองความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20-21 พ.ย.ศกนี้ อย่างแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สำลักเทคโนโลยี

เมื่อโลกสำลักเทคโนโลยี !!!
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 22 ตุลาคม 2553 17:40 น.
ณ บ้านพระอาทิตย์
โดย...ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

จำได้ว่าเมื่อสมัยเป็นเด็กอยู่ยังได้มีโอกาสดูโทรทัศน์ภาพ ขาวดำ เล่นขี่จักรยานในหมู่บ้านกับเด็กเพื่อนบ้าน เล่นดีดลูกหิน หันมาสังคมในยุคนี้เปลี่ยนไปอย่างมากชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

ความเร็วของเทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก สังคมในโลกวันนี้มีผู้คนจำนวนมากที่ใช้อินเตอร์เน็ท เข้าไปในเว็บไซต์ต่างๆ และหลายคนมีโทรศัพท์มือถืออัจฉริยภาพที่สามารถทำได้หลายๆอย่างในเครื่อง เดียวกัน

ตัวอย่างที่เห็นชัดมากที่สุดในความเร็วของเทคโนโลยีก็คือกรณีของ Facebook ซึ่งเป็นเว็บไซต์ประเภทสังคมเครือข่าย (Social Network) เพิ่งก่อตั้งเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ช่วงเวลา 4 ปีเศษๆเท่านั้น ปัจจุบันเป็นที่นิยมแพร่หลายโดยมีผู้ที่ใช้ Facebook ทั่วโลกรวม 526 ล้านคนทั่วโลก โดยมีคนไทยเล่นอยู่ประมาณ 5.7 ล้านคน (1.09% ของผู้ที่ใช้ Facebook ทั่วโลก)

526 ล้านคนสำหรับผู้ที่ใช้ Facebook เทียบได้เป็นประชากรอันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศจีนอันดับ 1 มีประชากร 1,300 ล้านคนและ อันดับ2 อินเดียมีประชากร1,200 ล้านคน ซึ่งยังมากกว่าสหรัฐอเมริกาที่มีประชากรอยู่ประมาณ 310 ล้านคน

“เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” การศึกษากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในวันนี้ มีส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตแต่ละชาติว่าจะไปในทิศทางใด ท่ามกลางสมรภูมิสงครามค่าเงินระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนนั้น ประเทศมหาอำนาจได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลกับการศึกษาเพื่อเปลี่ยนโครงสร้าง ของสังคมในอนาคต

ในอีกไม่นานจีนจะเป็นประเทศที่มีประชากรพูดภาษาอังกฤษมากที่สุดในโลก จะมีประชากรจบในระดับมหาวิทยาลัยจำนวนมาก ในขณะที่อินเดียที่มีประชากรอันดับ 2 โดยจำนวนประชากรในอินเดีย 25% แรกที่ฉลาดและมีไอคิวสูงสุดยังมีมากกว่าจำนวนประชากรของสหรัฐอเมริการวมกัน ทั้งประเทศ โดยปัจจุบันเด็กอินเดียได้รับเกียรตินิยมด้านการแปลภาษา มากกว่าเด็กสหรัฐอเมริกา และมีคนอินเดียเป็นชาติที่ผลิตนักเขียนโปรแกรมชั้นนำในระดับโลกจำนวนมาก

ใครจะเชื่อว่า 10 อันดับแรกสำหรับอาชีพซึ่งเป็นที่มีความต้องการมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาใน วันนี้ เป็นอาชีพที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
และนั่นหมายความว่าสหรัฐอเมริกาจะต้องมีการสอนและเตรียมให้เด็กสำหรับอาชีพ ที่ยังไม่ปรากฏในวันนี้เพื่อเตรียมใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ได้คิดค้นใน อนาคต และสอนเด็กให้เตรียมแก้ปัญหาในสิ่งที่ยังไม่รู้ว่าโจทย์ของปัญหาคืออะไร?

วันนี้ที่สหรัฐอเมริกามีคนตกงานสูงเพิ่มขึ้นถึง 10% เพราะค่าเงินหยวนอ่อนค่าติดตามเงินเหรียญสหรัฐทำให้ฐานการผลิตย้ายไปยัง เอเชียและจีน แต่ในอีกด้านหนึ่งกระทรวงแรงานคาดการณ์ว่ามีอาชีพใหม่เกิดขึ้นประมาณ 10-14 อาชีพ ที่คนอเมริกันอายุเฉลี่ย 38 ปี ต้องมาเรียนรู้กันใหม่ เพียงแต่ว่างานใหม่นั้นใช้คนน้อยกว่าและเทียบไม่ได้กับการว่างงานที่เพิ่ม มากขึ้น

1 ใน 4 ของคนทำงานในสหรัฐอเมริกาได้อยู่กับนายจ้างของตัวเองไม่ถึง 1 ปี ในขณะที่ครึ่งหนึ่งของคนทำงานในอเมริกาอยู่กับนายจ้างของตัวเองไม่ถึง 5 ปี แสดงให้เห็นว่ามีอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นในประเทศที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีระดับ โลก

การเจริญเติบโตของเทคโนโลยีได้มีอัตราเร่งเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด!!!

Google ซึ่งเป็นขุมพลังให้กับนักค้นคว้าหาข้อมูลทั่วโลก ปี พ.ศ. 2549 มีคนเข้าไปค้นคว้าประมาณ 2,700 ล้านครั้งต่อเดือน แต่ในปี พ.ศ. 2551 มีคนเข้าไปค้นคว้าเพิ่มเป็น 31,000 ล้านครั้งต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่าตัวเพียงแค่ 2 ปี

เทคโนโลยี “วิทยุ” เข้าถึงตลาดผู้ฟัง 50 ล้านคน ใช้เวลาถึง “38 ปี”

เทคโนโลยี “โทรทัศน์” เข้าถึงตลาดผู้ชม 50 ล้านคนใช้เวลาเร็วขึ้นกว่านั้นเป็น “13 ปี”

เทคโนโลยี “อินเตอร์เน็ท” เข้าถึงตลาดคนเข้าชม 50 ล้านคนใช้เวลาเร็วขึ้นอีกเป็น “4 ปี”

เทคโนโลยี “I pod” เข้าถึงตลาด 50 ล้านคน ใช้เวลา 3 ปี

ส่วน “Facebook” เข้าถึงตลาด 50 ล้านคนใช้เวลา 2 ปี วันนี้ผ่านมา 4 ปีเศษกลายเป็น 526 ล้านคนทั่วโลก

มิพักต้องพูดถึงอีเมล์ได้กลายเป็นสิ่งที่ใช้กันโดยทั่วไปโดยทุกวันมีคนส่งกันไปมาไม่ต่ำกว่า 165,000 ล้านครั้งต่อหนึ่งวัน

ความเร็วของเทคโนโลยีที่สูงอย่างน่ามหัศจรรย์ ได้ทำให้เกิดปัญหาอีกด้าน เด็กนักเรียนที่สหรัฐอเมริกาที่ต้องใช้เวลาเรียนถึง 4 ปีทางด้านเทคนิค ปรากฏว่าสิ่งที่เรียนมาในครึ่งปีแรกจะกลายเป็นสิ่งที่ล้าสมัยตกรุ่นในขณะที่ เด็กเหล่านั้นเรียนในปีที่ 3

ความเร็วของเทคโนโลยียังได้ทำลายอาชีพเก่าๆต้องล้มปิดตัวไปหลายอาชีพ และสร้างงานใหม่ให้กับคนอีกจำนวนหนึ่ง โดยทุกวันนี้มีการดาวน์โหลดเพลงในอินเตอร์เน็ทฟรีๆแบบผิดกฎหมายไม่ต่ำกว่า นาทีละ 150,000 หนังสือและเครื่องมืออุปกรณ์หลายประเภท ถูกทดแทนด้วยอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายรูป, เครื่องอัดเทป, วีดีโอเทป พจนานุกรม ฯลฯ และในสหรัฐอเมริกามีคนต้องตกงานมากขึ้นมากกว่าคนที่ได้งานใหม่จากเทคโนโลยี ใหม่ๆที่กำลังจะพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

ความเร็วของเทคโนโลยีได้ได้แพร่สะพัดมาถึงประเทศไทย มีอาชีพมากมายได้เกิดขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพคนขายและคนซ่อมอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ Tablet, Pad อาชีพดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ ฯลฯ

กระแสเทคโนโลยีที่ไหลทะลักเข้ามาได้ทำให้คนในโลกนี้กำลัง เป็นโรคสำลักเทคโนโลยี คนในยุคนี้จำเบอร์โทรศัพท์ได้น้อยลง เขียนหนังสือและใช้ภาษาอ่อนแอลง คิดคำนวณคณิตศาสตร์ได้น้อยลงและช้าลง มีข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นก็มาพร้อมกับความฉาบฉวยมากขึ้นเช่นกัน

ใครที่คิดว่าเทคโนโลยีจะทำให้ทำงานได้เร็ว แม่นยำ และสวยงามขึ้น แท้ที่จริงแล้วกลับทำให้ต้องเสียเวลามากขึ้นเพราะต้องการความสมบูรณ์แบบมาก ขึ้นไปอีกเพื่อแข่งขันกับคนอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้บางองค์กรต้องสูญเสียประสิทธิภาพในการทำงานเพราะคนใน บางองค์กรต้องหลงติดใช้เวลาอยู่ในวังวนของ Social Network มากขึ้นกว่าเดิม

เทคโนโลยีที่ทันสมัยหากนำมาใช้ประโยชน์กับคนที่มีอาชีพโดยตรงและใช้ เทคโนโลยีอย่างเต็มประสิทธิภาพก็จะทำให้เกิดความคุ้มค่าในอาชีพของตน แต่น่าเสียดายคนไทยจำนวนมากได้นำมาใช้ตามกระแสแฟชั่นเสียมากกว่า

NECTEC ได้เคยจัดทำสถิติการใช้อินเตอร์เน็ตของประเทศไทย ประมาณการว่าปีที่แล้วมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ทรวมทั้งสิ้น 18.3 ล้านคน
และเมื่อสำรวจคำที่ค้นหามากที่สุดที่จะมักจะติดอันดับต้นๆเสมอสำหรับคนไทยโดยการสำรวจของ Truehits ได้แก่ คำว่า เกมส์, ดูดวง, ฟังเพลง, สมัครงาน และ แอบถ่าย

ดีที่สุดของคนไทยคือต้องรู้จักนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ กับเทคโนโลยี มีสติไม่ตกเป็นทาสของเทคโนโลยี ใช้อย่างพอเพียงเท่าที่จำเป็นให้เหมาะสมกับตัวเอง !!!

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Chilean miner rescued



Graphic shows Chile's trapped miners are rescued . (Xinhua/Zhang Liyun)

Backgrounder: The 10-step final phase of Chilean mine rescue

SAN JOSE MINE, Chile, Oct. 13 (Xinhua) -- The tenth of 33 trapped Chilean miners was rescued on Wednesday after staying underground for 69 days.

Related:

First miner surfaces after 69-day ordeal in Chilean mine

SAN JOSE MINE, Chile, Oct. 13 (Xinhua) -- The first of 33 miners who had been trapped for 10 weeks in a copper mine in northern Chile successfully returned to the surface early Wednesday.

Florencio Avalos, 31, was pulled up to fresh air in a capsule about 10 minutes after midnight local time, after spending 69 days some 700 meters underground. Full story

Second Chilean miner reaches surface

SAN JOSE MINE, Chile, Oct. 13 (Xinhua) -- The second of 33 trapped Chilean miners, being placed in a capsule early Wednesday, reached surface after staying underground for 69 days.

Mario Sepulveda, 39, was rescued about one hour after Florencio Avalos became the first miner to get out of the mine. Full story

Third Chilean miner rescued

SAN JOSE MINE, Chile, Oct. 13 (Xinhua) -- The third of 33 trapped Chilean miners was rescued on Wednesday after staying underground for 69 days.

The rescue of Juan Illanes came after those of Florencio Avalos and Mario Sepulveda. Full story

Nine trapped Chilean miners rescued to surface

SAN JOSE MINE, Chile, Oct. 13 (Xinhua) -- Nine of the 33 miners who had been trapped for over two months in northern Chile were brought back to the surface on Wednesday.

Florencio Avalos, 31, was the first to reach the surface after spending 69 days of ordeal some 700 meters underground. His family and Chilean President Sebastian Pinera were at the scene to receive him. Full story

Editor: Xiong Tong






วีรชน

สวนสัตว์เชียงใหม่จัดเบิร์ธเดย์"วีรชน"อายุครบ 37 ปี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2553 19:03 น.

สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดงานฉลองวันเกิดให้กับ เจ้าวีรชน ฮิปโปโปเตมัส เพศผู้มี อายุครบ 37 ปี ซึ่งทางสวนสัตว์ดุสิต ได้มอบให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่ ดูแลตั้งแต่ปี 2551 โดยมีของขวัญวันเกิด เป็นผักผลไม้ และขนมปัง

นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า เจ้าวีรชน เป็นฮิปโปโปเตมัส ที่เกิดในสวนสัตว์ดุสิต เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งเป็นวันเดียวกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ในช่วงที่มีการเดินขบวนชุมนุมประท้วงรัฐบาล และมีเหตุระเบิดใกล้กับสวนสัตว์ดุสิต ทำให้แม่ฮิปโปโปเตมัส ตกลูกออกมา ทางสวนสัตว์จึงตั้งชื่อว่า เจ้าวีรชน เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าวีรชน มีลูก 2 ตัวแล้ว กับฮิปโปโปเตมัส เพศเมีย ที่ชื่อมะลิวรรณ โดยตัวแรก ชื่อมะตูม และ ตัวที่ 2 เพิ่งเกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ยังไม่ได้ตั้งชื่อ และได้มีการประกวดตั้งชื่อ จะหมดเขตวันที่ 23 พฤศจิกายน นี้